triamboy
∞
หลายเดือนผ่านไปโดยไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นในตนเองอย่างเห็นได้ชัด, รัฐบาลโดยอภิสิทธิ์ และนำโดยอภิสิทธิ์ชนบางส่วนกลับทำได้เพียงนโยบายคลุมเคลือเหมือนปล่อยให้ลมในพัดผ่านลืมไปเท่านั้น, และเฝ้ารอลมเย็น 100 ปีพัดแผ่บางส่วนเข้ามาจากภายนอก. มากกว่านั้น, พวกเขากลับสร้างแรงเหวี่ยงของลมพายุลูกเล็กลูกใหม่, ที่พร้อมจะทวีแรงให้บ้านเพิ่งแล้วซ่อมเสร็จล้มพังครืนไปในขณะชั่ววืบ.
∞
พรก., พระราชกฤษฎีกา, เป็นเสมือนเข็มติดเชื้อ,ที่แคะหนองใกล้หาย , ให้เริ่มอักเสบ และลามกว้างขึ้น.
∞
อภิสิทธิ์ชนปัจจุบัน, อันได้แก่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมถึงบรรดาผู้นำทั้งเบื้องหน้าและหลังของการบริหารราชอาณาจักรไทยภายใต้ระบอบประชาธิปไตย, ได้ติดเชื้อไฟนานาประการไปพร้อมกับพระราชกฤษฎีกาเงินกู้ อาทิเช่น
∞
– โครงการสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2
– โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง
– โครงการถนนปลอดฝุ่น เป็นต้น. (ถนนปลอดทุจริต?- รสนา โตสิตระกูล)
∞
เชื้อนี้อาจรุนแรงถึงขนาดที่ผู้ติดตายได้ หรือสภาพเสมือนตาย. น้อยที่สุดเชื้อได้สร้างสภาพไร้เสถียรภาพทางการเมืองรอบใหม่, เสมือนคนไร้เรี้ยวแรงอันบริบูรณ์พร้อมประกอบกิจกรรมหาเลี้ยงชีพได้ พึงแต่อยู่หายใจรอดไปวันนึง. ฉะนั้น, การพยายามอย่างที่สุดของอภิสิทธิ์ชนเพื่อการสร้างสรรค์นโยบายต่างต่างในบริบทที่เสถียรภาพหาไม่ปรากฎ, จึงไม่อาจสร้างความเชื่อมั่นการกระทำเหล่านั้นในเวลาอันสั้น และนำไปสู่ความเชื่อถือตนเองในท้ายที่สุด. ในทางกลับกัน, การกระทำนี้อาจรั้งแต่จะรังสรรค์บรรยากาศอึมครึม, อึดอัด, และกระอักกระอวมให้นานออกไปมากขึ้น.
∞
“เมื่อมีเพียงแต่รัฐบาลเท่านั้นที่ทำได้” อภิสิทธิ์เคยกล่าวบ่อยครั้ง.
“เมื่ออภิสิทธิ์ชนผูกคอตายโดยบังเอิญ”, แล้วใคร่เล่าจะช่วย “ชนภายใต้อภิสิทธิ์ชน”.
ฤาจะเป็นอภิสิทธิ์ชนเชื้อเดิมอีกครั้ง. เชื้อไหน?
ฤาอภิสิทธิธิ์ชนปัจจุบันตั้งใจผูกคอตาย 100 ครั้งเพื่อโอกาสที่ดีกว่าแก่ราชอาณาจักรไทย.
ดีๆๆๆ
ไม่มีผลงาน คือลาภ ของเรา แต่ต้องยอมรับ ปชป. ทำงาน สร้างอนาคต ระยะยาว แต่มันยาวไป เราไม่ชอบหรอก ปชป. แต่อยากเห็นประเทศชาติก้าวหน้า ไม่อยากชนะบนซากหักพังของประเมศตัวเอง
ขอบคุณใจ คุณ pad4thai มา ณ โอกาสนี้ครับ.
เป็นที่เข้าใจโดยทั่วไป, ส่วนใหญ่ของชนไทยตนใดต้องการให้ประเทศที่ตั้ง, ที่ถูเรียกว่า “ราชอาณาจักรไทย”, กลายเป็นซากอนุสรณ์สะท้อนผลการต่อสู่ของชนเดียวกันเพื่อคำว่าความก้าวหน้าของประเทศชาติอย่างที่คุณ pad4thai ได้กล่าวไว้. เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน, การต่อสู่คงไม่ได้สิ้นสุดลงในระยะใกล้ของเวลานี้, และคงไม่ไกลเกินสายตาของชนไทยทุกคน ,หากเป้าหมาย รวมถึงพื้นที่การต่อสู้ถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นการสู้กับตนเอง.
ยุติการสู้ระหว่างชนไทยด้วยกันเอง, ต้องสู้ “ตน”เอง.
หากตน “ไม่หวัง” ตนแปรเปลี่ยน, ซากอนุสรณ์คงไม่ไกลเกินความไม่คาดหวัง.
หากตน “หวัง” ตนอื่นแปรเปลี่ยน, ซากอนุสรณ์คงไม่ไกลเกินความไม่คาดหวัง.
หากตนประกอบด้วยสองอย่างนี้, ตนกำลัง “หวัง” ซากอนุสรณ์อย่างไม่รู้ตน.
หากตนไม่ประกอบด้วยสองอย่างนี้, ตนกำลัง “ไม่หวัง” ซากอนุสรณ์อย่างรู้ตน.